ยอ สมุนไพรตำรับโบราณต้านมะเร็ง ซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายได้
ต้นยอเป็นสมุนไพรไทยที่นิยมใช้เป็นยาตามตำรับยาโบราณมาตั้งแต่สมัยสองพันปีที่แล้ว โดยสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งราก เปลือก ใบ และผล ทั้งชาวจีน ญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย และประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อใช้ในการรักษาโรคต่างๆ
ต้นยอเป็นพืชไม้ต้นขนาดเล็กที่นิยมปลูกช่วงต้นฤดูฝนในแถบเอเชียเขตร้อน สามารถขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด โดยปกติจะไม่นิยมรับประทานใบสดๆ นอกจากจะใช้วิธีการนึ่งโดยรองก้นห่อหมกรับประทาน ส่วนใบอ่อนจะนำมาลวกให้สุกรับประทานเป็นผักจิ้มหรือหั่นฝอยๆ สำหรับใส่แกงเผ็ดนั่นเอง
สารอาหารในต้นยอ
ต้นยอส่วนที่เป็นใบหรือที่เราเรียกกันว่า “ใบยอ” อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารอย่างยิ่ง ใบยอปริมาณ 100 กรัม จะมีปริมาณวิตามินซี 76 มิลลิกรัม มากกว่ามะนาวสองเท่า มีแคลเซียม 350 มิลลิกรัม มากกว่านมถึงสามเท่า และยังมีวิตามินเอ ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัสในปริมาณที่สูงอีกด้วย เหมาะสำหรับสตรีวัยหมดประจำเดือนในการสะสมแคลเซียม เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน
ประโยชน์ในการต้านมะเร็ง
นอกจากนี้ยังเต็มเปี่ยมไปด้วย Antioxidant หรือสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างปฏิกิริยาชีวเคมีในเซลล์ให้ดีขึ้น ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายและฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมโทรมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทำให้เซลล์มีกำลังและขจัดสารพิษในเซลล์ออกไป จึงสามารถช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายและช่วยต้านโรคมะเร็ง โดยยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปกติไม่ให้กลายเป็นเซลล์มะเร็ง
ผลการวิจัยลูกยอที่มีต่อโรคมะเร็ง
มีผลการวิจัยในต่างประเทศพบว่า ลูกยอสามารถช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้ โดยจะเข้าไปควบคุมการทำงานของเซลล์ต่างๆ และเซลล์ที่งอกใหม่ถูกทำลาย โดยผู้ป่วยสามารถรับประทานลูกยอร่วมกับยาอื่นๆ ได้ แทบจะไม่มีปฏิกิริยาด้านลบหรือมีผลข้างเคียงที่น้อยมาก
ทั้งนี้ห้ามใช้ในสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากมีผลโดยตรงต่อระบบการหมุนเวียนของโลหิตในครรภ์ ซึ่งอาจจะทำให้แท้งได้ รวมถึงผู้ป่วยที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังไม่ควรรับประทานน้ำลูกยอ เพราะว่ามีธาตุโพแทสเซียมสูงนั่นเอง
เรียบเรียงโดย: แชร์กันไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น