วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

หามาทานด่วน ทับทิม ประโยชน์มากมาย ป้องกันษามะเร็ง ลดอาการอักเสบได้


หามาทานด่วน ทับทิม ประโยชน์มากมาย ป้องกันษามะเร็ง ลดอาการอักเสบได้

ประโยชน์
Advertisements

เมล็ดทับทิมเป็นผลไม้มีรส หวานหรือเปรี้ยวอมหวาน น้ำคั้นจากเมล็ดทับทิมมีกลิ่นหอมชวนดื่ม ประกอบด้วยน้ำตาลและกรดที่เป็นประโยชน์ รวมถึงวิตามินเอ ซี อี ธาตุเหล็ก แคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งเป็นธาตุสำคัญที่ร่างกายต้องการ

ทับทิมถูกใช้เป็นยาพื้นบ้านของชาวอิหร่านและอินเดียมาแต่โบราณ น้ำต้มเปลือกทับทิมใช้แก้เจ็บคอ ยาพอกจากใบใช้พอกหนังศีรษะลดอาการผมร่วง น้ำคั้นเมล็ดทับทิมใช้ลดความร้อนในร่างกาย เชื่อว่าช่วยล้างระบบต่างๆ ของร่างกายและเหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์อีกด้วย

ชาวอาหรับใช้เปลือกรากทับทิมสดๆ ต้มน้ำ ดื่มถ่ายพยาธิตัวตืด เปลือกจากลำต้นทับทิม ต้มน้ำใช้ถ่ายพยาธิชนิดต่างๆ ร่วมกับยาถ่าย ใช้เปลือกผลทับทิมผสมกานพลูและฝิ่นรักษาโรคบิดและท้องร่วงอย่างแรง

ชาวอินเดียใช้น้ำคั้นจากผลทับทิมและดอกทับทิม ปรุงยาธาตุ ใช้สมานลำไส้ และแก้ท้องเสีย เมล็ดทับทิมใช้บำรุงหัวใจ

ประเทศไทย แพทย์แผนโบราณใช้ทับทิมทั้งต้นหรือที่เรียกทับทิมทั้งห้าเป็นยาระบาย หรือถ่ายพยาธิเส้นด้ายและตัวตืด

เปลือก ราก และเปลือกต้นมีฤทธิ์ฝาดสมาน ใช้ถ่ายพยาธิตัวตืด พยาธิไส้เดือน พยาธิเส้นด้าย

ใบ ใช้ สมานแผล แก้ท้องร่วง น้ำต้มใบใช้อมกลั้วคอ ทำยาล้างตา

ดอก ใช้ห้ามเลือด

เปลือกผลใช้สมานแผล แก้บิด แก้ท้องร่วง

ส่วนเนื้อหุ้มเมล็ด มีวิตามินซีสูงแก้โรคลักปิดลักเปิด และใช้แก้กระหายน้ำ

สังเกตได้ว่าชาวไทยใช้ประโยชน์จากทับทิมด้านสมุนไพรมากกว่าชาติอื่นๆ

ประโยชน์ทางเภสัชวิทยาที่ค้นพบในปัจจุบัน

ระยะนี้น้ำทับทิมได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ เนื่องจากมีคุณค่าอย่างสูงต่อการดูแลสุขภาพ น้ำทับทิม 1 แก้วมีวิตามินซีร้อยละ 40 ของความต้องการของผู้ใหญ่ใน 1 วัน และมีวิตามินเอ อี และกรดโฟลิกปริมาณสูง น้ำทับทิมที่ผลิตในเชิงธุรกิจจะรวมน้ำคั้นเปลือกผลไว้ด้วย

ชาวบาบิโลเนียในอดีตเชื่อว่าทับทิมเป็นผลไม้ที่ช่วยให้สามารถฟื้นคืนกำลัง ปัจจุบันงานวิจัยมากมายได้สนับสนุนความเชื่อโบราณนี้

การดื่มน้ำคั้นจากทับทิมวันละแก้ว จะช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด ลดการแข็งของหลอดเลือดแดง และมีสุขภาพหัวใจที่ดีขึ้น และมีผลดีอื่นๆ ต่อสุขภาพ

คุณค่าสารต้านอนุมูลอิสระ

น้ำทับทิมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระดีมาก เกิดจากจากสารกลุ่มโพลีฟีนอลและแอนโทไซยานินปริมาณสูงที่พบในน้ำทับทิม ปริมาณเท่ากันน้ำทับทิมมีฤทธิ์ต้านต้านอนุมูลอิสระเป็น 3 เท่าของไวน์แดงและชาเขียว และสูงกว่าน้ำบลูเบอร์รี น้ำแครนเบอร์รี น้ำองุ่นสีม่วง และน้ำผลไม้ชนิดอื่น

จากการศึกษาวิจัยพบว่าเปลือก ทับทิมมีสารกลุ่มแทนนินสูงถึงร้อยละ 22-25 โดยประกอบด้วยสารกลุ่มแกลโลแทนนิน (gallotannin) และเอลลาจิแทนนิน (ellagitannin) ปริมาณสูง เปลือกทับทิมตากแห้งใช้เป็นยาแก้ท้องเดินและโรคบิดได้ สารกลุ่มเอลลาจิแทนนิน มีคุณสมบัติเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่ดี

คุณค่าต่อระบบไหลเวียนเลือด ลดความดันเลือด ป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดแข็งตัวและโรคหลอดเลือดอุดตัน

ป็นที่ทราบกันดีว่าสารโพลีฟีนอลมีความสามารถยับยั้งปฏิกิริยาต้านอนุมูลอิสระ ของไขมันไม่ดี หรือแอลดีแอล-คอเลสเตอรอล (LDL-C, low densitylipoprotein cholesterol) ลดการสร้างโฟมเซลล์ และลดการแข็งตัวของหลอดเลือด
Advertisements

กลุ่มวิจัยไลพิดของอิสราเอลทำงานวิจัยเกี่ยวกับสรรพคุณของน้ำทับทิมที่มีผลต่อโรค หลอดเลือดแข็งตัว พบว่าสารโพลีฟีนอลจากน้ำทับทิมป้องกันไขมันไม่ดีจากปฏิกิริยาต้านอนุมูล อิสระของเซลล์ได้ 2 วิธี คือ โพลีฟีนอลจากทับทิมเข้าทำปฏิกิริยากับไลพิดโปรตีนโดยตรง

อีกวิธี คือโดยการสะสมของโพลีฟีนอลในมาโครฟาจ ของหลอดเลือด พบว่าโพลีฟีนอลจากทับทิมลดความสามารถของมาโครฟาจในการออกซิไดซ์ไขมันไม่ดี โดยทำปฏิกิริยากับโมเลกุลไขมันไม่ดี เพื่อหยุดยั้งปฏิกิริยาต้านอนุมูลอิสระดังกล่าว และยังสะสมในมาโครฟาจในหลอดเลือด ทำให้หยุดยั้งปฏิกิริยาไลพิดเพอร์ออกซิเดชั่น และการสร้างมาโครฟาจที่อุดมไปด้วยไลพิดเพอร์ออกไซด์

นอกจากนี้ สารโพลีฟีนอลในน้ำทับทิมยังเพิ่มการทำงานของเอนไซม์พาราออกโซเนสในพลาสม่า ป้องกันไม่ให้ไขมันไม่ดีถูกออกซิไดซ์ ทำให้เกิดการแตกตัวของไลพิดเพอร์ออกไซด์ในไลโพโปรตีนที่ถูกออกซิไดซ์ไปแล้ว และในรอยเกาะของไขมันที่ผนังหลอดเลือด เมื่อหนูที่มีไขมันเกาะผนังหลอดเลือดได้รับสารจากน้ำทับทิม พบว่าเกิดการหยุดสร้างรอยแผลจากการเกาะของไขมันขึ้นใหม่อีกด้วย

การศึกษาทางคลินิกพบว่าน้ำทับทิมมีผลดีต่อการป้องกันการเกิดโรคหัวใจ น้ำทับทิมลดความข้นของเลือดจากภาวะไขมันสูง งานวิจัยชิ้นหนึ่งกล่าวว่าน้ำทับทิมเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้เลือดสูบฉีดไป ยังหัวใจได้ดีขึ้น โดยลดความหนาของผนังหลอดเลือดคาโรติด ช่วยการทำงานของไนตริกออกไซด์ทำให้กล้ามเนื้อเรียบผ่อนคลาย ลดภาวะการแข็งตัวของหลอดเลือดจากไขมันในเลือดสูง ลดความดันเลือดหยุดการสะสมไขมันและสลายไขมันสะสมที่หลอดเลือดด้วย

อนุมูลอิสระเป็นตัวทำให้คอเลสเตอรอลมีการเปลี่ยนแปลงโดยปฏิกิริยาต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งคอเลสเตอรอลที่เปลี่ยนแปลงนั้นจะไปเร่งการแข็งตัวของหลอดเลือด น้ำทับทิมช่วยลดปฏิกิริยาต้านอนุมูลอิสระลงได้ครึ่งหนึ่ง สามารถลดปริมาณไขมันไม่ดีหรือคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีที่ทำให้เกิดหลอดเลือดอุด ตันซึ่งนำไปสู่อาการโรคหัวใจ นอกจากนี้น้ำทับทิมยังลดปริมาณพลัค (plaque) ในหลอดเลือดแดงใหญ่ และเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลดีอีกด้วย

เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้วิจัยทำการทดลองในหนู พบว่าน้ำทับทิมลดการสะสมของไขมันบนผนังหลอดเลือด และหยุดการแข็งตัวของหลอดเลือดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติได้ และเชื่อว่าน้ำทับทิมประมาณ 1 แก้วจะช่วยชะลอการแข็งตัวของหลอดเลือดในผู้ป่วยระยะต้นได้

แพทย์ที่สหรัฐอเมริกาเห็นด้วยว่าน้ำทับทิมสามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของการกินอาหาร เพื่อสุขภาพและการออกกำลัง แต่น้ำทับทิมเพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันหรือรักษาโรคหัวใจได้

คุณค่าด้านป้องกันและรักษามะเร็ง

น้ำทับทิมมีผลลดการเกิดมะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง งานวิจัยพบว่าน้ำทับทิมสดและน้ำทับทิมที่ผ่านการหมักมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญ เติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมและมะเร็งผิวหนัง เชื่อว่าสารที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งเต้านมจำนวนหนึ่งมี ฤทธิ์เป็นเอสโทรเจนจากพืช

สารกลุ่มเอลลาจิแทนนินจากเปลือกผลทับทิมมี ฤทธิ์ต่อต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งกว่า 13 ชนิด ได้แก่ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ เป็นต้น

เอลลาจิแทนนินเป็นสารโพลีฟีนอลสำคัญที่พบอยู่ในน้ำทับทิมปริมาณมาก เมื่อผ่านเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนสภาพเป็นกรดเอลลาจิกซึ่งจะถูกแบคทีเรีย ในร่างกายมนุษย์เปลี่ยนเป็นอนุพันธ์ของสารยูโรลิทินเอ (urolithin A derivative) ต่อไป

ในสัตว์ทดลองพบว่าหนูทดลองที่ได้รับสารสกัดเข้มข้นของน้ำทับทิมมีการสะสมสารยูโรลิทินเอมากในอัณฑะ ลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็ก

งานวิจัยเดียวกันในห้องทดลองพบว่ากรดเอลลาจิก และยูโรลิทินเอ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งอัณฑะมนุษย์ คณะผู้วิจัยคิดว่าน้ำทับทิมมีฤทธิ์ป้องกัน การเกิดมะเร็งอัณฑะด้วย

นอกจากนี้ สารดังกล่าวมีคุณสมบัติทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหารและลำไส้ใหญ่ พบว่าเมื่อให้กรดเอลลาจิกกับสัตว์ทดลองที่ทำให้เกิดมะเร็ง สารดังกล่าวจะทำให้เซลล์มะเร็งถูกทำลายโดยกลไกการแตกตัวของตัวมันเองได้

คุณค่าป้องกันตับ

รายงานการทดลองเพิ่มเติมพบว่าเมื่อให้สารจากทับทิมกับหนูทดลอง ก่อนที่จะให้สารพิษคาร์บอนเตตราคลอไรด์เพื่อทำให้เกิดพิษต่อตับ พบว่าหนูที่ได้รับสารจากทับทิมมีฤทธิ์ป้องกันการเป็นพิษต่อตับได้จริง

คุณค่าลดอาการอักเสบ

เป็นที่ทราบกันว่าเอลลาจิแทนนินจากเปลือกผลทับทิมมีสรรพคุณลดอาการอักเสบ แพทย์ทางเลือกที่สหรัฐอเมริกามีการใช้สารสกัดน้ำทับทิมรักษาโรคที่เกิดจาก การอักเสบ เช่น โรคข้อรูมาตอยด์แล้ว

การทดลองในกระต่ายที่มลรัฐ โอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ปี พ.ศ.2551 พบว่า เมื่อให้น้ำสารสกัดทับทิมกับกระต่าย ทำให้พลาสม่าจากกระต่ายหลังได้รับสารสกัดน้ำทับทิม มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าพลาสม่าที่ตรวจวัดก่อนได้รับสารสกัดดัง กล่าวอย่างมีนัยสำคัญ

การทดลองต่อมาพบว่า สารสกัดน้ำทับทิมลดการทำงานของโปรตีนที่เป็นสาเหตุของการอักเสบอย่างมีนัย สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอนไซม์ไซโคลออกซีไฮดรอจิเนส-2 และพบว่าพลาสม่าของกระต่ายที่ได้รับสารสกัดน้ำทับทิมลดการทำงานของเอนไซม์ไซ โคลออกซีไฮดรอจิเนส-1 และ 2 ในหลอดทดลองได้ และสารสกัดจากน้ำทับทิมยังลดการสร้างสารก่อให้เกิดการอักเสบ (pro-inflammatory compounds) โดยเซลล์จากกระดูกอ่อนด้วย งานวิจัยดังกล่าวจึงให้ข้อมูลสนับสนุนการใช้น้ำทับทิมในการรักษาโรคจากการ อักเสบข้างต้นเป็นอย่างดี

คุณค่าป้องกันโรคกระดูกพรุน

พบน้ำทับทิมมีผลหยุดการทำงานของเอนไซม์ที่ทำลายกระดูกอ่อนในห้องทดลอง จึงต้องรอให้มีการศึกษาผลของการบริโภคน้ำทับทิมว่ามีผลทำให้อัตราการเสื่อม ของกระดูกอ่อนลดลงหรือไม่

คุณค่าอื่นๆ

น้ำทับทิมมีคุณสมบัติทำให้ผิวหน้าเต่งตึงได้ ใช้น้ำทับทิมประมาณ 1 ช้อนชาทาบนใบหน้า ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น นอกจากนี้การดื่มน้ำทับทิมยังช่วยให้ผิวสวยจากภายใน โดยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระจะป้องกันผิวจากการทำลายของรังสีอัลตราไวโอเลต อีกทั้งเสริมสุขภาพโครงสร้างเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นนอกด้วย

เชื่อกันว่าน้ำทับทิมบรรเทาอาการแพ้ท้องในสตรีมีครรภ์ ปรับฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน เสริมสุขภาพทางเพศให้ท่านชาย ช่วยบำบัดโรคเบาหวาน และป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ ถ้ามีข้อมูลด้านงานวิจัยสนับสนุนความเชื่อเหล่านี้จะได้นำมาเสนอในโอกาสต่อไป

ดื่มน้ำทับทิมวันละผลไม่ต้องไปหาหมอ (คั้นสดวันละ 50-100 มิลลิลิตร หรือน้ำทับทิมเข้มข้นวันละ 1 ช้อนโต๊ะ)

ที่มา ... หมอชาวบ้าน
Advertisements

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น